หลังน้ำลดต้องระวัง! 5 โรคอันตรายที่มาพร้อมกับความชื้น พร้อมวิธีรับมือฉบับพี่น้องชาวใต้
- Growth Stairlifts

- 5 วันที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที

สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของภาคใต้เริ่มคลี่คลายลงแล้ว ระดับน้ำที่ลดลงอาจทำให้หลายคนเบาใจขึ้น แต่ความจริงแล้ว "ภัยหลังน้ำลด" นั้นน่ากลัวไม่แพ้กัน เพราะความชื้น สิ่งสกปรก และเชื้อโรคที่หมักหมมมากับน้ำยังคงอยู่ และพร้อมจะโจมตีสุขภาพของเราได้ทุกเมื่อ
เพื่อให้พี่น้องชาวใต้ได้เตรียมตัวและฟื้นฟูร่างกายอย่างปลอดภัย วันนี้เรารวบรวมข้อมูลเจาะลึกของ 5 โรคยอดฮิตที่ต้องระวังเป็นพิเศษในช่วงน้ำลด พร้อมวิธีสังเกตอาการและการป้องกันมาฝากครับ 1. โรคฉี่หนู (Leptospirosis)
เป็นโรคที่พบได้บ่อยที่สุดหลังน้ำลด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีน้ำขังหรือพื้นดินแฉะ เชื้อแบคทีเรียจะปนเปื้อนอยู่ในปัสสาวะของสัตว์นำโรค (หนู โค กระบือ สุนัข) และเข้าสู่ร่างกายผ่านทางบาดแผล หรือการแช่น้ำเป็นเวลานาน
อาการที่ต้องสังเกต: มีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะรุนแรง และจุดเด่นคือ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก โดยเฉพาะบริเวณน่องและโคนขา อาจมีอาการตาแดงร่วมด้วย
วิธีป้องกัน:
หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลน หรือแช่น้ำนานๆ หากจำเป็นให้สวมรองเท้าบูท
หากมีบาดแผลต้องปิดพลาสเตอร์กันน้ำให้มิดชิด
เมื่อขึ้นจากน้ำ ต้องล้างเท้าและฟอกสบู่ให้สะอาดทันที
2. โรคอุจจาระร่วง (Diarrhea)
ระบบสาธารณูปโภคและแหล่งน้ำดื่มอาจยังไม่สะอาดเพียงพอในช่วงฟื้นฟู ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสจากการกินอาหารและน้ำดื่ม
อาการที่ต้องสังเกต: ถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน อาจมีมูกเลือดปน ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน หากรุนแรงอาจเกิดภาวะขาดน้ำและช็อกได้
วิธีป้องกัน:
ยึดหลัก "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ"
ดื่มน้ำบรรจุขวดที่ปิดสนิท หรือน้ำต้มสุกเท่านั้น ห้ามดื่มน้ำจากแหล่งธรรมชาติเด็ดขาด
กำจัดขยะมูลฝอยและเศษอาหารให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อไม่ให้แมลงวันตอม
3. โรคตาแดง (Conjunctivitis)
เกิดจากน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา หรือการใช้มือที่เปื้อนเชื้อโรคขยี้ตา รวมถึงการใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย
อาการที่ต้องสังเกต: ตาแดง เคืองตา คันตา น้ำตาไหล มีขี้ตามากผิดปกติ เปลือกตาบวม อาจเริ่มจากข้างหนึ่งแล้วลามไปอีกข้าง
วิธีป้องกัน:
หากน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดทันที
หมั่นล้างมือด้วยสบู่บ่อยๆ
ห้ามขยี้ตา และแยกของใช้ส่วนตัว (ผ้าเช็ดหน้า, ผ้าเช็ดตัว) ออกจากผู้อื่น
4. โรคไข้เลือดออก (Dengue Fever)
ภาคใต้มีความชื้นสูง บวกกับหลังน้ำลดจะมีแอ่งน้ำขังตามเศษขยะ ภาชนะ หรือโพรงไม้ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ชั้นดีของ "ยุงลาย"
อาการที่ต้องสังเกต: ไข้สูงลอย (กินยาลดไข้แล้วไม่ค่อยลง) ติดต่อกัน 2-7 วัน หน้าแดง ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา อาจมีจุดเลือดออกตามตัว หรือเลือดกำเดาไหล
วิธีป้องกัน:
สำรวจรอบบ้าน เทน้ำขังในภาชนะต่างๆ ทิ้ง
นอนในมุ้ง หรือทายากันยุงป้องกันตัวแม้ในเวลากลางวัน
ข้อควรระวัง: หากมีไข้สูง ห้ามซื้อยาแอสไพรินหรือไอบูโปรเฟนกินเอง เพราะอาจทำให้เลือดออกง่ายขึ้น
5. โรคน้ำกัดเท้า (Athlete’s Foot)
หรือฮ่องกงฟุต เกิดจากเชื้อราที่เจริญเติบโตได้ดีในที่อับชื้น โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเดินลุยน้ำหรือใส่รองเท้าที่เปียกชื้นเป็นเวลานาน
อาการที่ต้องสังเกต: คันตามซอกนิ้วเท้า ผิวหนังลอกเป็นขุย ผื่นแดง ถ้าเป็นมากอาจมีพุพอง ผิวหนังเปื่อยยุ่ย และเจ็บแสบ
วิธีป้องกัน:
เช็ดเท้าให้แห้งสนิททุกครั้งหลังสัมผัสน้ำ โดยเฉพาะตามซอกนิ้ว
โรยแป้งฝุ่นเพื่อลดความชื้น
หากมีอาการคัน ให้ทายาฆ่าเชื้อรา และพยายามให้เท้าแห้งอยู่เสมอ
นอกจากดูแลสุขภาพร่างกายแล้ว การทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลดต้องระวังเรื่อง "เชื้อรา" ตามผนังและเฟอร์นิเจอร์ ควรสวมถุงมือยางและหน้ากากอนามัยขณะทำความสะอาด และตรวจสอบระบบไฟฟ้าโดยช่างผู้ชำนาญก่อนสับคัตเอาท์เพื่อใช้งานนะครับ
ด้วยความห่วงใยถึงพี่น้องชาวใต้ทุกคน ขอให้ผ่านพ้นวิกฤตและกลับมามีรอยยิ้มได้โดยเร็วครับ
หากท่านใดมีอาการป่วยรุนแรง หรือดูแลเบื้องต้นแล้วไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือสถานีอนามัยใกล้บ้านทันที : Growthstairlifts
























ความคิดเห็น